admin00

ประโยชน์ของน้ำผึ้ง

น้ำผึ้ง ความหวานจากธรรมชาติที่ใครหลายคนบอกว่าประโยชน์ของน้ำผึ้งมีดีหลายอย่าง และนอกจากน้ำผึ้งจะช่วยรักษาสิว บำรุงผิว และบำรุงความงามได้แล้ว สรรพคุณของน้ำผึ้งยังรักษาโรคและบรรเทาได้หลายอาการตามนี้เลย จากการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Pediatrics เผยว่า น้ำผึ้งมีสรรพคุณเทียบเท่ายาปฏิชีวนะเบา ๆ สามารถกำจัดเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดอาการไอได้ โดยเฉพาะคนที่ไอเรื้อรังไม่ยอมหาย ลองกินน้ำผึ้ง 2 ช้อนชาแล้วดื่มน้ำอุ่นตาม อาการไอจะค่อย ๆ บรรเทาลง ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าในน้ำผึ้งแอบซ่อนโพรไบโอติกส์ แถมยังเป็นมิตรกับแบคทีเรียประเภทแลคโตบาซิลัส ดังนั้นเพียงจิบน้ำผึ้งผสมน้ำอุ่นก่อนเข้านอน ตื่นเช้ามารับรองว่าโล่งสบายท้องแน่ ๆ เนื่องจากน้ำผึ้งมีฤทธิ์สมานแผล จึงสามารถรักษาแผลในกระเพาะอาหารของผู้ป่วยโรคกระเพาะได้ โดยเฉพาะคนที่มีอาการโรคกระเพาะในระยะเริ่มต้น ควรกินน้ำผึ้งวันละ 1 ช้อนชาเป็นประจำ ในน้ำผึ้งมีเอนไซม์ที่ผึ้งปล่อยออกมา ซึ่งเอนไซม์ที่ว่านี้ก็มีฤทธิ์คล้ายไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ จึงสามารถรักษาเชื้อราหรืออาการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดต่าง ๆ ได้นั่นเอง นักโภชนาการจาก Seattle Sutton’s Healthy Eating ชิคาโก แนะนำให้ผู้ที่นอนไม่หลับเป็นประจำกินน้ำผึ้ง 1 ช้อนชาก่อนเข้านอน 30 นาที ด้วยเหตุผลที่ว่าน้ำผึ้งให้ความหวานกับร่างกาย ซึ่งจะไปกระตุ้นให้ร่างกายผลิตอินซูลินและหลั่งเซโรโทนิน ฮอร์โมนแห่งความสุขออกมาได้ จากนั้นเซโรโทนินจะเปลี่ยนตัวเองเป็นเมลาโทนิน ฮอร์โมนที่พาให้รู้สึกง่วงและรู้สึกอยากนอนหลับ น้ำผึ้งมีฤทธิ์คล้ายสารต้านการอักเสบ อีกทั้ง Dr.Matthew Brennecke […]

ประโยชน์ของน้ำผึ้ง Read More »

7 ประโยชน์ดีๆ ของน้ำผึ้ง

น้ำผึ้ง ที่อยู่ในครัวของคุณไม่ได้มีประโยชน์ไว้เติมความหวานในน้ำชา ทานคู่กับแพนเค้ก หรือว่าผสมกับน้ำมะนาวจิบเพื่อความชุ่มคอเท่านั้น มันยังเป็นวัตถุดิบที่ได้จากธรรมชาติที่มีประโยชน์ต่อผิวพรรณอย่างมหาศาล ถ้าอยากรู้ว่าคุณจะคว้ากระปุกน้ำผึ้งในครัวมาบำรุงผิวได้อย่างไรบ้าง ลองมาดู 7 คุณสมบัติดี ๆ ที่น้ำผึ้งมอบให้กับผิวของเรากันเถอะ

7 ประโยชน์ดีๆ ของน้ำผึ้ง Read More »

สูตรพอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง มีสูตรใด ทำได้อย่างไรบ้าง?

สูตรทำความสะอาดผิวหน้าอย่างล้ำลึก สิ่งที่ต้องเตรียม : น้ำผึ้ง 1-2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ นำน้ำผึ้งเข้าไมโครเวฟเพื่ออุ่นให้ร้อนเล็กน้อย ก่อนพอกให้ล้างหน้าจนสะอาด ซับด้วยผ้าขนหนูเบาๆ จากนั้นนำน้ำผึ้งขณะอุ่นๆ มาทาลงบนผิวหน้าจนทั่ว พร้อมกับนวดวนด้วยปลายนิ้วมือประมาณ 5 นาที จากนั้นพอกทิ้งไว้ต่ออีก 10 นาที แล้วล้างออกให้สะอาดด้วยน้ำอุ่น สำหรับการ พอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง นี้ นับเป็นสูตรทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างล้ำลึก เพราะ น้ำผึ้ง มีส่วนประกอบของน้ำตาลกลูโคส 79% และยังมีกรดหลายชนิด เมื่อนำมาพอกหน้าก็จะช่วยดูดซับสิ่งสกปรกออกจากรูขุมขนได้เป็นอย่างดี และทำหน้าที่กำจัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพแล้วให้หลุดออกไปได้อย่างอ่อนโยนมากขึ้น สาวๆ คนไหนมีสิวบ่อย อันเนื่องจากสิ่งสกปรกที่อุดตันในรูขุมขน แนะนำให้พอกด้วยน้ำผึ้งเป็นประจำทุกวันได้เลยค่ะ สูตรเติมความชุ่มชื้นให้ผิว สิ่งที่ต้องเตรียม : น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ + ไข่แดง 1 ฟอง วิธีทำ นำส่วนผสมทั้งหมดมาคนจนกลายเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำมาพอกหน้าจนทั่ว ปล่อยไว้ 10 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด สาวคนไหนที่มีปัญหาผิวแห้งและหยาบกร้านอย่างมาก แนะนำสูตรนี้เลยค่ะ รับรองมันจะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหน้าได้เป็นอย่างดี สูตรแก้ปัญหาผิวไหม้แดด

สูตรพอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง มีสูตรใด ทำได้อย่างไรบ้าง? Read More »

กินน้ำผึ้งทุกวันจะเป็นเบาหวานหรือไม่?

น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา ให้พลังงานประมาณ 15 กิโลแคลอรี น้ำผึ้งเป็นสารให้ความหวานต่างจากน้ำตาล ตรงที่อุดมไปด้วยโปรตีน พลังงาน วิตามินและเกลือแร่ ดัชนีน้ำตาลของน้ำผึ้งอยู่ที่ 55 ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง ดีต่อสุขภาพ ทั้งนี้ก็ไม่แนะนำให้รับประทานเกินวันละ 6 ช้อนชา (ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ) มิฉะนั้นอาจเป็นผลร้ายต่อสุขภาพแทน ปล1. ปกติปริมาณน้ำตาล (ความหวาน) ที่แนะนำต่อวัน ซึ่งขอเดาเล่น ๆ ว่าคุณน่าจะอยู่ในวัยทำงาน คำนวณจากความต้องการพลังงานต่อวันแล้ว น้ำตาลที่ได้รับไม่ควรเกิน 6 ช้อนชาต่อวัน (นี่ยังไม่รวมน้ำตาลแฝงในอาหารประเภทอื่น ๆ อีก เช่น อาหารประเภท ข้าว แป้ง เผือก มัน พืชผัก ผลไม้ต่าง ๆ ที่คุณจะได้รับอีกนะ) ปล2.บุคคลที่กินน้ำผึ้งแล้วมีปัญหาคือ คนที่เป็นโรคเบาหวาน หรือมีกรรมพันธุ์เป็นโรคเบาหวาน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อน เนื่องจากผู้ที่เป็นโรคเบาหวานจะมีระดับน้ำตาลกลูโคสในกระแสเลือดสูง และถ้ารับประทานน้ำผึ้ง ซึ่งมีน้ำตาลกลูโคสและฟรุคโตสในปริมาณสูงจะยิ่งทำให้ระดับน้ำตาลสูงจนอาจเกิดผลเสียกับร่างกายได้ และอาจทำให้การใช้ยาของแพทย์ในการรักษาโรคนี้ไม่ได้ผล ถ้าทราบว่าตนเองเป็นเบาหวานก็ควรปรึกษาแพทย์ก่อนจะรับประทานน้ำผึ้ง หรือบอกให้แพทย์ทราบว่าตนเองรับประทานน้ำผึ้งอยู่ด้วยนะค

กินน้ำผึ้งทุกวันจะเป็นเบาหวานหรือไม่? Read More »

ความปลอดภัยในการใช้น้ำผึ้ง

การรับประทานน้ำผึ้งอาจไม่ปลอดภัยต่อทารกและเด็กที่ยังเล็กอยู่มาก อย่าให้เด็กที่อายุต่ำกว่า 12 เดือนรับประทานน้ำผึ้งดิบ เนื่องจากมีโอกาสเสี่ยงเกิดพิษจากสารโบทูลินั่มต่อร่างกายได้ ซึ่งอาจจะไม่เป็นอันตรายต่อเด็กที่โตกว่านี้หรือผู้ใหญ่ หญิงที่ตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตรน่าจะสามารถรับประทานน้ำผึ้งในปริมาณปกติที่พบได้จากอาหารในชีวิตประจำวันได้อย่างปลอดภัย แต่การรับประทานในปริมาณมากเพื่อจุดประสงค์ทางการแพทย์นั้นยังไม่มีข้อมูลที่ยืนยันได้ เพื่อความปลอดภัย หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรจึงควรหลีกเลี่ยงการรับประทานน้ำผึ้งเพื่อการช่วยรักษาโรคต่าง ๆ น้ำผึ้งที่ผลิตจากน้ำหวานของดอกโรโดเดนดรอน (Rhododendrons) อาจไม่ปลอดภัยเมื่อนำมารับประทาน เพราะน้ำผึ้งชนิดนี้ประกอบด้วยสารพิษที่อาจส่งผลให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ ความดันโลหิตต่ำ เจ็บหน้าอก รวมถึงปัญหาหัวใจชนิดร้ายแรงอื่น ผู้ที่แพ้เกสรดอกไม้ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานน้ำผึ้งที่ผลิตมาจากเกสรดอกไม้ด้วยเช่นกัน ปฏิกิริยาต่อยาหรือสมุนไพรอื่น ๆ น้ำผึ้งเองอาจมีฤทธิ์ต้านการเกิดลิ่มเลือด หากรับประทานร่วมกับยาเหล่านี้อาจทำให้ยิ่งเสี่ยงต่อการมีเลือดออกหรือฟกช้ำได้ เช่น แอสไพริน (Aspirin) โคลพิโดเกรล (Clopidogrel) และยาต้านการอักเสบกลุ่มที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เป็นต้น น้ำผึ้งอาจทำปฏิกิริยากับสมุนไพรที่มีฤทธิ์ต้านการเกิดลิ่มเลือดได้เช่นกัน และส่งผลให้เสี่ยงต่อการมีเลือดออกได้ เช่น กานพลู กระเทียม ขิง โสม แปะก๊วย และอื่น ๆยาเฟนิโทอิน (Phenytoin) อาจถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายในปริมาณที่มากขึ้นเมื่อรับประทานร่วมกับน้ำผึ้ง ทำให้อาจได้รับผลข้างเคียงจากยานี้มากขึ้นปริมาณที่ปลอดภัยต่อการใช้ การใช้น้ำผึ้งเพื่อรักษาอาการไอ ควรรับประทานที่ปริมาณ 2.5-10 มิลลิลิตร ก่อนนอน การใช้น้ำผึ้งรักษาแผลต่าง ๆ สามารถทาลงบนผิวหนังได้โดยตรงหรือใช้ผ้าพันแผลชุบน้ำผึ้งแปะไว้ ควรเปลี่ยนผ้าพันแผลทุก 24-48 ชั่วโมง

ความปลอดภัยในการใช้น้ำผึ้ง Read More »

น้ำผึ้ง ช่วยลดความเครียด และนอนไม่หลับได้

น้ำผึ้งเป็นแหล่งของสารอาหารคาร์โบไฮเดรตที่สำคัญ ชนิดที่สำคัญ คือ น้ำตาล ฟรัสโทส และกลูโคส ที่ผึ้งบ่อยสลายจากน้ำตาลซูโครสในน้ำหวาน น้ำตาลทั้งสองชนิดซึ่งเป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว ที่ร่างกายสามารถดูดซึมไปสร้างพลังงานได้ทันที ในน้ำผึ้งมีวิตามินอยู่หลายชนิดได้แก่ ตามิน B1, B2, C และ B6 ปริมาณวิตามินในน้ำผึ้งแต่ละชนิดแตกต่างกันตามที่มาของน้ำผึ้ง น้ำผึ้งมีคุณค่านับไม่ถ้วน เช่น คุณค่าทางอาหาร เป็นอาหารที่สะอาดปลอดจากจุลินทรีย์ต่าง ๆ น้ำตาลในน้ำผึ้งจะถูกนำไปเผาผลาญเป็นพลังงาน และความอบอุ่น ให้แก่ร่างกาย บำรุงร่างกายและสมองให้แข็งแรงสดชื่นแจ่มใสได้ ประโยชน์ของการดื่มน้ำผึ้งผสมน้ำอุ่นน้ำผึ้งเป็นหนึ่งในสุดยอดอาหารที่นอกจากจะมีรสชาติที่หอมหวานและอร่อยถูกปากแล้ว ก็ยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อีกทั้งยังถูกนำมาใช้เป็นส่วนประกอบของอาหารหวานหรือทำเป็นเครื่องดื่มดับกระหาย อย่างไรก็ตามเราลองมาดู 7 เหตุผลว่าการดื่มน้ำผึ้งผสมน้ำอุ่นจะดีต่อสุขภาพได้อย่างไร คุณค่าทางการรักษาโรคของน้ำผึ้งนั้น มีสรรพคุณแก้ท้องผูกเอนไซม์ในน้ำผึ้งจะช่วยย่อยคาร์โบไฮเดรต น้ำผึ้งจึงมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ แก้อาการท้องผูกในเด็กและคนชราได้เป็นอย่างดี สำหรับคนที่มีอาการเครียด นอนไม่หลับ ควรรับประทานน้ำผึ้ง เพราะในน้ำผึ้งมีกรดที่สำคัญชนิดหนึ่ง คือ Decenoic acid ซึ่งเป้นกรดธรรมชาติที่ช่วยคลายเครียด และทำให้อารมณ์ดี สามารถช่วยบรรเทาอาการนอนไม่หลับได้เป็นอย่างดี สำหรับผู้ที่นอนไม่หลับควรรับประทานน้ำผึ้งก่อนนอน อาจรับประทานเป็นช้อน หรือเลี่ยงความหวานโดยการผสมน้ำแล้วดื่ม

น้ำผึ้ง ช่วยลดความเครียด และนอนไม่หลับได้ Read More »

น้ำผึ้งผสมอบเชย ยาตำหรับอายุรเวชโบราณที่มีคุณประโยช์ต่อมนุษย์

ปัจจุบันวิทยาศาสตร์กล่าวว่าแม้น้ำผึ้งจะมีรสหวาน ถ้ารับประทานในปริมาณที่เหมาะสมก็จะเป็นยาชนิดหนึ่ง ไม่เป็นอันตรายแก่ผู้ป่วยเบาหวาน หนังสือ World Weekly News ของแคนนาดา ประจำวันที่ 17 มกราคม 1995 ได้บอกถึงสรรพคุณของน้ำผึ้งกับอบเชยว่ารักษาโรคใดได้บ้าง ซึ่งเป็นผลการวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ชาติตะวันตกดังนี้ : เอาน้ำผึ้งผสมกับผงอบเชยแล้วป้ายขนมปังแทนเยลลีและแยม ทานเป็นประจำเป็นอาหารเช้าจะช่วยลดคอเรสเตอรัลในเส้นเลือดและช่วยลดอาการหัวใจวาย สำหรับผู้ที่เป็นโรคหัวใจอยู่แล้ว ถ้ารับประทานตามที่แนะนำมานี้เป็นประจำ ก็จะทำให้อาการเจ็บกล้ามเนื้อหัวใจทุเลา ถ้าคนปกติรับประทานเป็นประจำดังกล่าวมาก็จะทำให้ระบบหายใจดีขึ้น การเต้นหัวใจแข็งแรงขึ้น ในสหรัฐอเมริกาและแคนนาดาสถานดูแลผู้ป่วยหลายแห่งใช้วิธีนี้บำบัดคนไข้ผลดี และค้นพบต่อไปอีกว่า เมื่อคนเราอายุมากขึ้น เส้นโลหิตแดงและโลหิตดำขาดความยืดหยุ่นและอุดตันได้ง่าย น้ำผึ้งกับอบเชยสามารถฟื้นฟูเส้นโลหิตทั้งสองชนิดได้ ผู้ป่วยโรคปวดข้อปวดกระดูกอาจจะรับประทานเป็นประจำโดย ชงน้ำผึ้ง 2 ช้อนกับผงอบเชย 1 ช้อนชาในน้ำร้อนขนาดถ้วย กาแฟทุกเช้าและเย็น ก็จะทำให้อาการปวดทรมานหายได้ จากผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยโคเปนฮาเกน พบว่าหมอให้คนไข้รับประทานน้ำผึ้งขนาด 2 ช้อนโต๊ะกับผงอบเชยขนาด ครึ่งช้อนชาก่อนอาหารเช้า พบว่าในเวลา 1 สัปดาห์คนไข้จำนวน 73 คนจากจำนวนทั้งหมด 200 คนที่เข้าร่วมโครงการทดลองมีอาการปวดลดลง เมื่อทดลองต่อไปจนครบ 1 เดือนปรากฏว่าคนไข้ส่วนใหญ่ที่เดินไม่ได้สามารถเดินได้เองโดยไม่มีอาการปวดแต่อย่างใด ชงน้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะกับผงอบเชย 3 ช้อนชาในน้ำชาขนาด

น้ำผึ้งผสมอบเชย ยาตำหรับอายุรเวชโบราณที่มีคุณประโยช์ต่อมนุษย์ Read More »

Scroll to Top