กินน้ำผึ้งทุกวันจะเป็นเบาหวานหรือไม่?

น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา ให้พลังงานประมาณ 15 กิโลแคลอรี น้ำผึ้งเป็นสารให้ความหวานต่างจากน้ำตาล ตรงที่อุดมไปด้วยโปรตีน พลังงาน วิตามินและเกลือแร่ ดัชนีน้ำตาลของน้ำผึ้งอยู่ที่ 55 ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง ดีต่อสุขภาพ ทั้งนี้ก็ไม่แนะนำให้รับประทานเกินวันละ 6 ช้อนชา (ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ) มิฉะนั้นอาจเป็นผลร้ายต่อสุขภาพแทน

ปล1. ปกติปริมาณน้ำตาล (ความหวาน) ที่แนะนำต่อวัน ซึ่งขอเดาเล่น ๆ ว่าคุณน่าจะอยู่ในวัยทำงาน คำนวณจากความต้องการพลังงานต่อวันแล้ว น้ำตาลที่ได้รับไม่ควรเกิน 6 ช้อนชาต่อวัน (นี่ยังไม่รวมน้ำตาลแฝงในอาหารประเภทอื่น ๆ อีก เช่น อาหารประเภท ข้าว แป้ง เผือก มัน พืชผัก ผลไม้ต่าง ๆ ที่คุณจะได้รับอีกนะ)

ปล2.บุคคลที่กินน้ำผึ้งแล้วมีปัญหาคือ คนที่เป็นโรคเบาหวาน หรือมีกรรมพันธุ์เป็นโรคเบาหวาน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อน เนื่องจากผู้ที่เป็นโรคเบาหวานจะมีระดับน้ำตาลกลูโคสในกระแสเลือดสูง และถ้ารับประทานน้ำผึ้ง ซึ่งมีน้ำตาลกลูโคสและฟรุคโตสในปริมาณสูงจะยิ่งทำให้ระดับน้ำตาลสูงจนอาจเกิดผลเสียกับร่างกายได้ และอาจทำให้การใช้ยาของแพทย์ในการรักษาโรคนี้ไม่ได้ผล ถ้าทราบว่าตนเองเป็นเบาหวานก็ควรปรึกษาแพทย์ก่อนจะรับประทานน้ำผึ้ง หรือบอกให้แพทย์ทราบว่าตนเองรับประทานน้ำผึ้งอยู่ด้วยนะค

คุณประโยชน์ของน้ำผึ้ง จะพบว่าในน้ำผึ้งมีสารเอนติออกซิเดนท์ เช่นเดียวกับที่มีในผักใบเขียวและยังมีวิตามินบี ซี ฟอสฟอรัส แคลเซียม เกลือแร่ และกรดอะมิโน ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพและช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ แร่ธาตุที่กล่าวมาล้วนมีความจำเป็นต่อร่างกายที่จะเข้าไปซ่อมแซมส่วนที่ สึกหรอ บำรุงโลหิต ช่วยปรับสมดุลร่างกายและควบคุมน้ำหนัก ผู้ที่รักสุขภาพและผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น โรคปวดข้อ เป็นตะคริวอยู่บ่อย ๆ หรือโรคอ้วน เคลือบลำไส้ ช่วยระบบขับถ่าย สามารถนำวิธีนี้ไปใช้ดื่มเป็นประจำ เพื่อสุขภาพที่ดี และช่วยบรรเทาโรคต่าง ๆ ได้ ซึ่งได้มีการพิสูจน์และใช้กันมานานในอเมริกาและยุโรป โดยนำน้ำผึ้งไม่ผ่านความร้อน (Raw Organic Honey) 3 ช้อนชา และน้ำส้มสายชูหมักแอปเปิ้ลไม่ผ่านความร้อน (Raw Organic Apple Cider Vinegar) 3 ช้อนชา ผสมน้ำเปล่า 1 แก้ว ดื่มทุกเช้าหลังตื่นนอน และระหว่างมื้อเป็นประจำทุกวัน จะทำให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงและสดชื่น
อาหาร เช้าสำหรับสาวทำงานและผู้รักสุขภาพ เพียงนำผลไม้ต่าง ๆ มาหั่น เช่น มะละกอ กล้วย ส้ม ตามชอบ ราดด้วยโยเกิร์ต ลูกเกด และน้ำผึ้ง ไปผ่านความร้อน คุณก็จะได้อาหารเช้าที่มีประโยชน์ อร่อย อุดมด้วยวิตามิน แร่ธาตุอาหาร เอนไซน์ และโปรตีนที่ย่อยง่าย
ผู้ที่นอนไม่ค่อยหลับ ผสมน้ำผึ้งกับนมร้อนจะช่วยให้คุณหลับสบาย แต่ถ้าได้ร่วมกับการนั่งสมาธิซัก 5 นาทีก่อนนอน เพื่อให้ท่านได้หยุดพักความคิดและปล่อยวางลงบ้าง จะยิ่งทำให้คืนนั้นเป็นคืนที่คุณได้พักผ่อนเต็มที่
ลดการอักเสบ หากมีบาดแผลหรือแผลถลอกให้ล้างด้วยน้ำเบกกิ้งโซดา หรือ อบเชย (ที่เย็นแล้ว) ซึ่งมีสรรพคุณฆ่าเชื้อทั้งสิ้น อาจใช้ น้ำมันหอม และน้ำมันกระเทียมช่วยล้างด้วยเพื่อห้ามเลือด จากนั้นทาน้ำผึ้งสะอาดบนแผล น้ำผึ้งจะช่วยป้องกันการติดเชื้อและทำให้แผลหายเร็ว
รักษาโรคผิวหนังจากเชื้อรา
ใช้ผงขมิ้นผสมน้ำผึ้งทาบริเวณกลากเกลื้อน วันละ 2 ครั้ง

แก้อาการท้องผูก
กินกล้วยน้ำว้าสุกจิ้มน้ำผึ้ง หรือมันต้มสุกจิ้มน้ำผึ้ง ช่วยลดอาการท้องผูกได้เช่นกัน

แก้ โรคกระเพาะ

ใช้ ดื่มน้ำผึ้ง2-3 ช้อนโต๊ะ ขณะปวดและดื่ม 3 ช้อนโต๊ะก่อนนอนทุกคืน สรรพคุณ ทำให้บรรเทาอาการปวด และหายจากอาการโรคกระเพาะได้

บำรุงเลือด
เทน้ำผึ้งครึ่ง ช้อนโต๊ะใส่แก้ว บีบน้ำมะนาว 1 ซึก ใส่เกลือนิดหน่อยเติมน้ำร้อน ดื่มเป็นยาบำรุงเลือด

บรรเทา อาการไอ
บีบมะนาวฝานสดๆหนึ่งเสี้ยวเข้าปากให้ลงลำคอ และจิบน้ำผึ้งแท้ หนึ่งช้อนโต๊ะ อมไว้ หายไอดีมาก

บำบัด เบาหวาน
ส่วนผสม สาลี่หอมหรือสาลี่หิมะจำนวน 5 ลูก น้ำผึ้ง 250 กรัม
วิธี ทำ
ปอกเปลือกสาลี่แล้วตำให้ละเอียด นำไปคลุกกับน้ำผึ้งแล้วต้มจนเหนียว บรรจุใส่ขวด
วิธีกิน
ผสมน้ำกิน ช่วยแก้อาการไอและบำบัดโรคเบาหวานได้

ลด ความดันโลหิตสูง
ส่วนผสม
น้ำผึ้งและงาดำ อย่างละ 50 กรัม
วิธีทำ
ตำ งาดำให้ละเอียดแล้วคลุกกับน้ำผึ้ง

วิธีกิน
ชงกับน้ำร้อน ดื่มรักษาโรคความดันโลหิตสูงและบรรเทาอาการท้องผูกเรื้อรังได้

จะ เห็นได้ว่าน้ำผึ้งมีคุณประโยชน์มากมาย เรียกว่าเป็นยาอายุวัฒนะอย่างหนึ่งได้เลย จริงไหมครับ?.

เบาหวานเกิดจาก 2 สาเหตุหลัก

  1. เป็นตั้งแต่เกิด(ทางพันธุกรรม)
  2. เกิดจากตัวรับสาร insulin(สารที่ทำให้ร่างกายดึงน้ำตาลไปใช้) เสีย

เพราะอย่างนั้นแล้ว ถ้าคุณจะชอบน้ำผึ้งแค่ไหน กินมากแค่ไหนก็ไม่มีปัญหา
บางที่เขาเอาน้ำผึ้งรักษาเบาหวานด้วยซ้ำ
ลองดูข้อมูลนี้ครับ

การรักษาโรคเบาหวานในปัจจุบัน แพทย์มักจะให้กินยาหรือฉีดฮอร์โมนอินซูลินเข้าร่างกาย แต่ในวิธีทางธรรมชาติบำบัด เรามีวิธีบรรเทา โรคเบาหวานให้ความรุนแรงเบาบางลงได้

ตัวอย่างแรก การใช้น้ำผึ้งบำบัด
โดยผสมน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะกับน้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ และน้ำสะอาด 1 ช้อนโต๊ะ ผสมให้เข้ากัน และดื่มก่อนอาหาร จะช่วยบรรเทาอาการได้ดี

ตัวอย่างที่สอง ใช้สุคนธบำบัด
โดยผสมน้ำมันหอมระเหยกลิ่นการบูร โรสแมรี มะนาว จูนิเปอร์ ยูคาลิปตัส และยูเรเนียน อย่างละ 7 – 8 หยด เข้าด้วยกันจะช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย อาจใช้ผสมกับน้ำมันนวดตัว หรือโลชั่นทาผิวได้ หรือจะผสมน้ำอาบก็ได้ผลเช่นเดียวกัน

Scroll to Top