น้ำผึ้งเป็นแหล่งของสารอาหารคาร์โบไฮเดรตที่สำคัญ ชนิดที่สำคัญ คือ น้ำตาล ฟรัสโทส และกลูโคส ที่ผึ้งบ่อยสลายจากน้ำตาลซูโครสในน้ำหวาน น้ำตาลทั้งสองชนิดซึ่งเป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว ที่ร่างกายสามารถดูดซึมไปสร้างพลังงานได้ทันที ในน้ำผึ้งมีวิตามินอยู่หลายชนิดได้แก่ ตามิน B1, B2, C และ B6 ปริมาณวิตามินในน้ำผึ้งแต่ละชนิดแตกต่างกันตามที่มาของน้ำผึ้ง น้ำผึ้งมีคุณค่านับไม่ถ้วน เช่น คุณค่าทางอาหาร เป็นอาหารที่สะอาดปลอดจากจุลินทรีย์ต่าง ๆ น้ำตาลในน้ำผึ้งจะถูกนำไปเผาผลาญเป็นพลังงาน และความอบอุ่น ให้แก่ร่างกาย บำรุงร่างกายและสมองให้แข็งแรงสดชื่นแจ่มใสได้
ประโยชน์ของการดื่มน้ำผึ้งผสมน้ำอุ่น
น้ำผึ้งเป็นหนึ่งในสุดยอดอาหารที่นอกจากจะมีรสชาติที่หอมหวานและอร่อยถูกปากแล้ว ก็ยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อีกทั้งยังถูกนำมาใช้เป็นส่วนประกอบของอาหารหวานหรือทำเป็นเครื่องดื่มดับกระหาย อย่างไรก็ตามเราลองมาดู 7 เหตุผลว่าการดื่มน้ำผึ้งผสมน้ำอุ่นจะดีต่อสุขภาพได้อย่างไร
- ลดการอักเสบ
น้ำผึ้งอุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยหนึ่งในนั้น คือ สารฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยในการบรรเทาอาการอักเสบทั้งแบบปกติและเรื้อรัง อย่างไรก็ดีโดยปกติเมื่อร่างกายคนเราเกิดการบาดเจ็บหรือติดเชื้อ ร่างกายจะตอบสนองโดยการหลั่งสารโพรสตาแกลนดิน(Prostaglandins) ซึ่งทำให้เกิดกระบวนการอักเสบ ซึ่งในบางครั้งร่างกายจะหลั่งสารชนิดนี้ออกมามากเกินจากที่ร่างกายต้องการ จึงทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกาย ทั้งนี้การดื่มน้ำผึ้งผสมน้ำอุ่นสามารถช่วยกำจัดสารดังกล่าวได้ - ช่วยในการขับถ่าย
ทราบหรือไม่ว่าน้ำผึ้งถือว่าเป็นยาระบายชั้นยอดตัวหนึ่ง ทั้งนี้การดื่มน้ำผึ้งผสมกับเลมอนและน้ำอุ่นยังสามารถช่วยกระตุ้นให้มีการผลิตเมือกในลำไส้ซึ่งจะช่วยในการกำจัดสารพิษ ดังนั้นหากกำลังประสบกับปัญหาท้องผูก การดื่มเครื่องดื่มชนิดนี้อาจช่วยทำให้ขับถ่ายได้สะดวกขึ้น - เพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกาย
น้ำผึ้งอุดมไปด้วยน้ำตาลจากธรรมชาติซึ่งเป็นแหล่งของพลังงานชั้นเยี่ยมและยังดีต่อสุขภาพเมื่อเทียบกับการทานสารให้ความหวานแทนน้ำตาล นอกจากนี้การดื่มน้ำผึ้งผสมกับน้ำอุ่นยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ร่างกายและเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังสมอง นอกจากนี้หากลองเพิ่มเลมอนเข้าไปในเครื่องดื่มดังกล่าว ก็สามารถช่วยล้างสารพิษในระบบย่อยอาหารได้ - กำจัดแบคทีเรีย
น้ำผึ้งมีคุณสมบัติในการต่อต้านแบคทีเรีย โดยมีสารที่ช่วยกำจัดแบคทีเรียชนิดไม่ดีที่สามารถก่อให้เกิดโรคร้ายได้ อีกทั้งยังมีกรดตามธรรมชาติที่ช่วยยับยั้งการเติบโตของเชื้อโรคซึ่งเป็นศัตรูตัวร้ายที่จะทำให้เจ็บป่วย - กระตุ้นภูมิคุ้มกัน
นอกจากน้ำผึ้งจะสามารถช่วยต่อต้านแบคทีเรียได้แล้ว ก็ยังช่วยลดการอักเสบได้โดยจะไปทำการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้จัดการกับอาการอักเสบ ยิ่งไปกว่านั้น น้ำผึ้งยังมีกลูโคสตามธรรมชาติซึ่งมีส่วนช่วยให้เซลล์กำจัดหรือทำลายสิ่งแปลกปลอม อีกทั้งยังจำเป็นสำหรับการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน - ป้องกันการเกิดภูมิแพ้
มีการศึกษาหนึ่งพบว่า การดื่มน้ำผสมน้ำผึ้งจะช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ตอบสนองต่อละอองเกสรและสปอร์ในน้ำผึ้ง ส่งผลให้ร่างกายสร้างแอนติบอดี (Antibodies) ซึ่งเป็นโปรตีนที่มีหน้าที่ในการตรวจจับและทำลายสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกาย ทำให้ร่างกายคุณมีภูมิคุ้มกันต่ออาการแพ้ที่เกิดจากสิ่งแวดล้อม เช่น เกสรดอกไม้ ฝุ่น เป็นต้น - ช่วยลดน้ำหนัก
หากกำลังอยู่ในช่วงลดน้ำหนักแต่รู้สึกอยากดื่มน้ำที่มีรสชาติหวาน น้ำผึ้งผสมน้ำอุ่นก็อาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี เพราะจะได้ประโยชน์จากน้ำตาลที่ได้จากธรรมชาติซึ่งแน่นอนว่าย่อมดีกว่าสารที่ให้ความหวานแทนน้ำตาล นอกจากนี้น้ำผึ้งยังสามารถช่วยลดความอยากอาหารได้
คุณค่าทางการรักษาโรคของน้ำผึ้งนั้น มีสรรพคุณแก้ท้องผูกเอนไซม์ในน้ำผึ้งจะช่วยย่อยคาร์โบไฮเดรต น้ำผึ้งจึงมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ แก้อาการท้องผูกในเด็กและคนชราได้เป็นอย่างดี สำหรับคนที่มีอาการเครียด นอนไม่หลับ ควรรับประทานน้ำผึ้ง เพราะในน้ำผึ้งมีกรดที่สำคัญชนิดหนึ่ง คือ Decenoic acid ซึ่งเป้นกรดธรรมชาติที่ช่วยคลายเครียด และทำให้อารมณ์ดี สามารถช่วยบรรเทาอาการนอนไม่หลับได้เป็นอย่างดี สำหรับผู้ที่นอนไม่หลับควรรับประทานน้ำผึ้งก่อนนอน อาจรับประทานเป็นช้อน หรือเลี่ยงความหวานโดยการผสมน้ำแล้วดื่ม